มาตรฐานจริยธรรมสำหรับผู้เขียนบทความ

  1. การรับรองความซ้ำซ้อน

ผู้เขียนต้องรับผิดชอบและรับรองว่าบทความที่ส่งมาพิจารณาในวารสารปัญญาปณิธานไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาในวารสารอื่น

  1. การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์

ผู้เขียนต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การส่งบทความและการอ้างอิงที่กำหนดโดยวารสารอย่างเคร่งครัด

  1. การจัดเตรียมต้นฉบับ

ผู้เขียนต้องปรับแต่งบทความให้ถูกต้องตามคำแนะนำสำหรับผู้เขียน โดยเฉพาะรูปแบบการจัดเตรียมต้นฉบับ เพื่อความเป็นมาตรฐานเดียวกันในการตีพิมพ์

  1. จริยธรรมการวิจัยและการป้องกันการคัดลอกผลงาน

ผู้เขียนต้องไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานผู้อื่น โดยวารสารกำหนดความซ้ำซ้อนผ่านโปรแกรม CopyCat ในระบบ Thaijo ไม่เกิน 25% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562

  1. ความถูกต้องของรายชื่อผู้เขียน

ชื่อผู้เขียนต้องเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำบทความหรือการวิจัยเท่านั้น หากตรวจพบว่ามีผู้ที่ไม่มีส่วนร่วม ทางวารสารจะถอนบทความออกทันที

  1. การอ้างอิงและป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์

ผู้เขียนต้องระบุแหล่งที่มาของเนื้อหา ภาพ ตาราง หรือข้อมูลที่นำมาใช้ในบทความอย่างถูกต้อง และรับผิดชอบในกรณีเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ หากมีข้อพิพาท วารสารจะไม่รับผิดชอบใด ๆ และจะดำเนินการถอนบทความออกจากการเผยแพร่ทันที

  1. ความถูกต้องของรายการอ้างอิง

ผู้เขียนต้องตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารอ้างอิงทั้งในแง่เนื้อหาและรูปแบบ ห้ามอ้างอิงเอกสารที่ไม่ได้อ่าน และควรอ้างอิงเฉพาะที่จำเป็นอย่างเหมาะสมตามหลักเกณฑ์ที่วารสารกำหนด

  1. การปรับแก้ตามผลประเมิน

ผู้เขียนต้องปรับแก้ไขบทความตามข้อเสนอแนะจากผู้ประเมินและกองบรรณาธิการภายในเวลาที่กำหนด หากไม่สามารถดำเนินการได้ทันเวลา การตีพิมพ์อาจถูกเลื่อนออกไปหรือถอนบทความ

  1. การระบุแหล่งทุนและผลประโยชน์ทับซ้อน

ผู้เขียนควรระบุชื่อแหล่งทุนที่สนับสนุนงานวิจัย (ถ้ามี) และแจ้งผลประโยชน์ทับซ้อน (ถ้ามี) อย่างชัดเจน

  1. ความถูกต้องของข้อมูล

ผู้เขียนต้องรายงานข้อมูลที่ถูกต้องและตรงตามความเป็นจริง ห้ามสร้าง ปลอมแปลง บิดเบือน หรือเลือกแสดงเฉพาะข้อมูลที่สนับสนุนข้อสรุปของตนเอง

  1. การอ้างอิงเอกสารที่ถูกถอดถอน

ห้ามอ้างอิงเอกสารที่ถูกถอดถอน เว้นแต่เป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการถอดถอน โดยต้องระบุสถานะของเอกสารนั้นไว้ในรายการอ้างอิงอย่างชัดเจน

 

มาตรฐานจริยธรรมของบรรณาธิการ

  1. การดำเนินงานตามจริยธรรมและนโยบาย

บรรณาธิการต้องกำกับดูแลให้การดำเนินงานของวารสารเป็นไปตามนโยบาย วัตถุประสงค์ และจรรยาบรรณวิชาชีพ ตามประกาศศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (TCI) 21 กรกฎาคม 2566

  1. การจัดการบทความที่ผิดจริยธรรม

บรรณาธิการต้องดำเนินการอย่างเหมาะสมในกรณีตรวจพบการกระทำผิดจริยธรรม เช่น การคัดลอกผลงาน (Plagiarism) โดยวารสารกำหนดความซ้ำซ้อนผ่านโปรแกรม CopyCat (ไม่เกิน 25%)

  1. การจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์

บรรณาธิการต้องป้องกันการตีพิมพ์บทความที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เช่น การเผยแพร่บทความของตนเอง โดยข้ามขั้นตอนการตรวจคุณภาพจากผู้ประเมินที่เป็นกลาง

  1. การคัดเลือกบทความคุณภาพ

บรรณาธิการต้องตรวจสอบคุณภาพบทความก่อนการตีพิมพ์ โดยพิจารณาความสอดคล้องกับนโยบายของวารสาร ความชัดเจนของเนื้อหา และการนำเสนอแนวคิดเชิงทฤษฎีใหม่หรือแบบจำลองที่สร้างสรรค์

  1. การรักษาความลับ

บรรณาธิการต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้เขียนหรือผู้ประเมินบทความต่อบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ตามกระบวนการประเมินแบบ Double-Blind Peer Review

  1. การป้องกันการตีพิมพ์ซ้ำ

บรรณาธิการต้องตรวจสอบบทความที่ส่งมาให้แน่ใจว่าไม่เคยตีพิมพ์ที่อื่น โดยใช้โปรแกรมตรวจสอบที่น่าเชื่อถือ หากพบความซ้ำซ้อนเกินกำหนด ต้องแจ้งผู้เขียนเพื่อขอคำชี้แจง และพิจารณาปฏิเสธการตีพิมพ์หากจำเป็น

  1. การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน

บรรณาธิการต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนหรือผู้ประเมิน เพื่อรักษาความโปร่งใสและธรรมาภิบาลของวารสาร

  1. การไม่ใช้ข้อมูลบทความเพื่อประโยชน์ส่วนตน

บรรณาธิการต้องไม่นำข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของบทความไปใช้เป็นผลงานของตนเอง

  1. การประเมินคุณภาพผลงานวิจัย

บรรณาธิการต้องตรวจสอบบทความที่มีระเบียบวิธีวิจัยถูกต้อง น่าเชื่อถือ และพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจตีพิมพ์เผยแพร่

  1. การถอนบทความที่มีปัญหา

หากตรวจพบว่าบทความมีการลอกเลียนหรือปลอมแปลงข้อมูล และผู้เขียนปฏิเสธการถอนบทความ บรรณาธิการมีสิทธิ์ดำเนินการถอนบทความโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้เขียน

  1. การบริหารงานกองบรรณาธิการ

บรรณาธิการต้องประเมินความสามารถและมอบหมายงานให้เหมาะสมกับความเชี่ยวชาญของกองบรรณาธิการ

  1. การควบคุมคุณภาพการอ้างอิง

บรรณาธิการต้องติดตามดูแลการอ้างอิงบทความให้ถูกต้องและสอดคล้องกับเนื้อหา พร้อมป้องกันการร้องขอให้อ้างอิงบทความในลักษณะไม่เหมาะสม

  1. ความโปร่งใสในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม

บรรณาธิการต้องกำหนดและประกาศขั้นตอนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม Page Charge หรือ Processing Fee อย่างชัดเจน พร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ประกาศไว้อย่างเคร่งครัด

 

มาตรฐานจริยธรรมของผู้ประเมินบทความ

  1. การรับบทความตามความเชี่ยวชาญ

ผู้ประเมินบทความควรรับเฉพาะบทความที่ตนมีความถนัด มีคุณวุฒิ หรือมีความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยพิจารณาความสำคัญของเนื้อหา คุณภาพการวิเคราะห์ ความเข้มข้นของผลงาน และแนะนำผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง แต่ผู้เขียนอาจยังไม่ได้อ้างถึง ทั้งนี้ ผู้ประเมินไม่ควรใช้ความคิดเห็นส่วนตัวที่ไม่มีข้อมูลรองรับในการตัดสินบทความ และควรปฏิเสธหากบทความไม่อยู่ในขอบเขตความเชี่ยวชาญของตน

  1. ความยุติธรรมและตรงต่อเวลา

ผู้ประเมินบทความต้องให้ข้อเสนอแนะทางวิชาการอย่างตรงไปตรงมา มีความยุติธรรม ปราศจากอคติ และไม่ลำเอียง พร้อมทั้งส่งผลการประเมินให้ทันตามกำหนดเวลาที่วารสารกำหนด

  1. การรักษาความลับ

ผู้ประเมินต้องรักษาความลับของบทความที่ได้รับการประเมิน ห้ามเปิดเผยข้อมูลให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ทั้งในระหว่างและหลังเสร็จสิ้นกระบวนการประเมิน

  1. การแจ้งผลประโยชน์ทับซ้อน

หากผู้ประเมินพบว่าตนมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนบทความ จนอาจไม่สามารถให้ข้อคิดเห็นได้อย่างอิสระ ผู้ประเมินต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบทันทีและปฏิเสธการประเมินบทความดังกล่าว

  1. การแก้ไขชื่อเรื่อง

สำหรับบทความวิชาการ ผู้ประเมินสามารถแนะนำให้แก้ไขชื่อเรื่องได้ตามความเหมาะสม แต่สำหรับบทความวิจัย ผู้ประเมินควรจำกัดการแก้ไขเฉพาะข้อผิดพลาดด้านตัวสะกดเท่านั้น และไม่ควรเสนอให้เปลี่ยนชื่อเรื่อง

  1. การใช้ข้อมูลในบทความ

ผู้ประเมินต้องไม่ใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของบทความที่กำลังประเมินไปเป็นผลงานของตนเองโดยเด็ดขาด

  1. การแจ้งปัญหาความซ้ำซ้อน

หากผู้ประเมินพบว่าบทความมีความซ้ำซ้อนหรือเหมือนกับผลงานอื่น ผู้ประเมินต้องแจ้งบรรณาธิการวารสารทันที พร้อมแสดงหลักฐานประกอบให้ชัดเจน

 

แปลและปรับปรุงจาก

https://tci-thailand.org/view?slug=ethical_assessment2023

ประกาศของศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (TCI) เรื่องการประเมินด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณวารสารวิชาการไทยในฐานข้อมูล TCI วันที่ 21 กรกฎาคม 2566