รูปแบบการพัฒนาครูโดยใช้การจัดประสบการณ์แบบสะเต็มที่ส่งเสริม ทักษะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21

Main Article Content

วราลี โกศัย
มัลลิกา เจริญพจน์
นิตยา บรรณประสิทธิ์
วิไลวรรณ ศิริเมฆา
ธนากร เทียมทัน
วิภารัตน์ อิ่มรัมย์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนาครูโดยใช้การจัด
ประสบการณ์แบบสะเต็มที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 2) เพื่อศึกษา
ผลการพัฒนาครูโดยใช้การจัดประสบการณ์แบบสะเต็มที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
ในศตวรรษที่ 21 3) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21
โดยใช้การจัดประสบการณ์แบบสะเต็มการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
มี 3 ระยะ คือระยะที่ 1 สร้างรูปแบบการพัฒนาครูปฐมวัยโดยใช้การจัดประสบการณ์แบบสะเต็ม
ที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ คือครูผู้สอนในชั้น
ปฐมวัย จำนวน 23 คนซึ่งมีประสบการณ์ระดับชั้นปฐมวัยในโรงเรียนประจำอำเภอ ทั้ง 23 อำเภอ
ของจังหวัดบุรีรัมย์ครูผู้สอนในชั้นปฐมวัย นักวิชาการด้านการศึกษาปฐมวัย และผู้เชี่ยวชาญด้าน
หลักสูตรและการสอนจำนวน 15 คน ระยะที่ 2การพัฒนาครูโดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์
แบบสะเต็มที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 กลุ่มเป้าหมาย คือ ครูผู้สอน
ในชั้นปฐมวัย จำนวน 20 คนระยะที่ 3 การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21
โดยใช้การจัดประสบการณ์แบบสะเต็มกลุ่มเป้าหมาย คือ ครูผู้สอนในชั้นปฐมวัย จำนวน 20 คน
และนักเรียน ชาย–หญิงห้องเรียนปฐมวัยที่ครูรับผิดชอบ จำนวน 20 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการ
วิจัยคือ แบบสอบถามแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังการอบรมพัฒนาของครูแบบสังเกต
พฤติกรรมการแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยและแบบนิเทศ ติดตามและประเมินผลการพัฒนาครูระดับ
ปฐมวัย ซึ่งข้อมูลสถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูปฐมวัยโดยใช้การจัดประสบการณ์แบบสะเต็มที่ส่ง
เสริมทักษะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ ความเป็นมา
ของรูปแบบ แนวคิดทฤษฎีพื้นฐาน หลักการของรูปแบบวัตถุประสงค์์และการพัฒนาครูปฐมวัยโดย
ใช้การจัดประสบการณ์แบบสะเต็มที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 ใน 4
ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นสร้างความเข้าใจ ขั้นตอนที่ 2 ขั้นเตรียมความพร้อม ขั้นตอนที่ 3 ขั้น
การนำไปใช้ตามกระบวนการและขั้นตอนการจัดประสบการณ์แบบสะเต็ม ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ขั้น
(ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผน ขั้นที่ 3 ขั้นการดำเนินกิจกรรม ขั้นที่ 4 ขั้นสรุป
และประเมินผลกิจกรรม) และขั้นตอนที่ 4 ขั้นนิเทศติดตามและประเมินผล ซึ่งผลการประเมินความ
สอดคล้อง (IOC) ระหว่าง 0.67-1.00
2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบสะเต็มที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของ
เด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21 พบว่าจากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของครูที่เข้ารับการ
อบรมเชิงปฏิบัติการด้วยรูปแบบพัฒนาการครูปฐมวัย พบว่าครูที่เข้าอบรมมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผลการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21พบว่า ความสามารถ
ในการแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์แบบสะเต็ม ด้านการแก้ปัญหาของ
ตนเอง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่นสูงกว่าด้านการแก้ปัญหาของตนเองที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่นและแก้ปัญหา
ของผู้อื่น

Article Details

บท
บทความวิจัย (Research Paper)

References

กลุ่มติดตามและประเมินผล สำนักงานศึกษาธิการภาค 1. (2560). รายงานผลการติดตามและ
ประเมินผลการดำเนินงานของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ในเขตตรวจราชการที่ 1
(STEM Education) ประจำปีงบประมาณ 2559. แหล่งที่มา : www.reo1.moe.
go.th/2557/images/download2560-re01-policy stem.pdf3/02/2560
สืบค้นเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560.
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, สำนักงาน. (2560). สรุปสาระสำคัญ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสอง พ.ศ. 2560 – 2564. กรุงเทพฯ:
สำนักนายกรัฐมนตรี.
ศึกษาธิการ, กระทรวง.(2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์รับส่งสินค้าและพัสดภัณฑ์ (ร.พ.ส.)
ศึกษาธิการ, กระทรวง. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์รับส่งสิ้นค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.พ.ส.).
ชลาธิป สมาหิโต. (2560). “การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษาในระดับการศึกษา
ปฐมวัย STEM Learning Experience Provision in Early Childhood Education”,
วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์, ปีที่ 30 ฉบับที่ 2, แหล่งที่มา : www.tci-thaijo.org/index.
php/eduku/article/viewFile/78579/62960 สืบค้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560.
ทิศนา แขมมณี. (2557). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มี
ประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 18. กรุงเทพฯ : มหาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นงเยาว์ ผาสุก. (2551). การวิจัยปฏิบัติการเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียน
เป็นสำคัญแบบโครงงาน โรงเรียนบ้านตรมไพร อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
(รายงานผลการวิจัย). สุรินทร์ : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1.
พรทิพย์ ศิริภัทราชัย. (2556). “STEM Education กับการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21”,
วารสารนักบริหาร, ปีที่ 33 ฉบับที่ 2 เมษายน-มิถุนายน 2556.
พรพรรณ ไวทยางกูร. (2560). จับตา!!! สะเต็มศึกษาพัฒนาเด็กไทยตั้งแต่วัยอนุบาล. สืบค้นเมื่อวันที่
15 เมษายน 2560 จากเว็บไซต์ : www.ipst.ac.th
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. 2560-2579). กรุงเทพฯ : บริษัท พริกหวาน กราฟฟิค.