ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดการความรู้ทางการพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือดในพยาบาลวิชาชีพ

Abstract

       การศึกษาเชิงบรรยายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลกับการจัดการความรู้การพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือดของพยาบาลวิชาชีพ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดในโรงพยาบาลทุกระดับที่เข้าร่วมประชุมวิชาการประจำปีจัดโดยสมาคมพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอกแห่งประเทศไทยปี 2558 จำนวน 191 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลมี 3ส่วน ได้แก่ 1) ข้อมูลส่วนบุคคล 2) การรับรู้เรื่องโครงสร้างและปัจจัยในองค์กร และ 3)กระบวนการจัดการความรู้ในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน

       ผลการวิจัยพบว่าพยาบาลมีการรับรู้กระบวนการจัดการความรู้ในการพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือดในภาพรวมในระดับมาก  ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้เรื่องโครงสร้างและปัจจัยในองค์กร ประกอบด้วย การบริหารองค์กร ผู้บริหาร การบริหารเทคโนโลยี วัฒนธรรมองค์กร การเสริมสร้างพลังอำนาจ และการมีส่วนร่วมกับสหสาขาวิชาชีพ กับกระบวนการจัดการความรู้การพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือด พบว่ามีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) และพบว่าตัวแปรที่สามารถร่วมกันทำนายกระบวนการจัดการความรู้การพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ดีที่สุดถึงร้อยละ 80.3 ได้แก่ วัฒนธรรมองค์กร ความร่วมมือกับสหสาขา การจัดการเทคโนโลยี และการบริหารองค์กร

       งานวิจัยนี้เสนอแนะให้มีการพัฒนาการจัดการความรู้อย่างต่อเนื่องในสถานบริการสุขภาพทุกระดับในด้านวัฒนธรรมองค์กร  ความร่วมมือกับสหสาขาวิชาชีพ การจัดการเทคโนโลยี และการบริหารองค์กรเพื่อให้มีการพัฒนาการจัดการความรู้ในการพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือดให้มีประสิทธิภาพ

Factors influencing to knowledge management of cardiovascular nursing in registered nurses

       The objective of this descriptive study was to investigate factors influencing the knowledge management (KM) of cardiovascular nursing of registered nurses (RNs). Purposive samplings of 191 RNs providing care for patients with cardiovascular disease were selected in the annual conference organized by cardiovascular thoracic nursing association in 2015. Data were collected using questionnaires of three parts: 1) Demographic questionnaire, 2) perception of infrastructure and factors of organization, and 3) process of KM in cardiovascular nursing.  Data were analyzed using descriptive statistic, person correlation and stepwise regression analysis.

       The results revealed that RNs perceived an excellent level of process of KM of cardiovascular nursing. There were significant positively correlation between organization management, administrator, informatics technology management, culture of organization, staff empowerment, collaboration of multidisciplinary and process of KM of cardiovascular nursing (p<.001). The variances of culture of organization, collaboration of multidisciplinary, informatics technology management and organization management could be the best prediction for 80.3% of the variances explained in process of KM of cardiovascular nursing.

        The study results suggest that continuing improvement of KM at all level of healthcare setting in culture of organization, collaboration of multidisciplinary, informatics technology management and organization management have significantly contributed to the development of process of KM of cardiovascular nursing effectively