ปัจจัยทางจิตสังคมที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมจัดการความเครียดของผู้ให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ผู้แต่ง

  • อภิวรรณ พลอยฉาย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • อังศินันท์ อินทรกำแหง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

คำสำคัญ:

พฤติกรรมจัดการความเครียด, ความเครียด, ผู้ให้บริการ

บทคัดย่อ

การวิจัยสหสัมพันธ์เชิงเปรียบเทียบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบพฤติกรรมจัดการความเครียดของผู้ให้บริการ

ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีลักษณะชีวสังคมแตกต่างกัน 2) ศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างปัจจัย

ด้านบุคคลและด้านสภาพแวดล้อมบางประการที่มีต่อพฤติกรรมจัดการความเครียดของผู้ให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 3) ศึกษาปัจจัยสำคัญในการทำนายพฤติกรรมจัดการความเครียดของผู้ให้บริการในระบบหลักประกัน

สุขภาพถ้วนหน้า เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งในกลุ่มรวมและกลุ่มที่มีลักษณะชีวสังคมต่างกัน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบชั้นภูมิตามสัดส่วน

ของประชากร จำนวน 397 คน มาจากโรงพยาบาลรัฐและเอกชน 334 คน ประเภทสถานพยาบาล 2 คน ศูนย์บริการสาธารณสุข

กทม. 17 คน และคลินิกชุมชนอบอุ่น 44 คน เก็บข้อมูลด้วยแบบวัดประเภทมาตรประเมินค่า 6 ระดับ จำนวน 8 แบบวัด มีค่าความ

เชื่อมั่นแบบสัมประสิทธิ์แอลฟาอยู่ระหว่าง .721 ถึง .888 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย

ด้วยสถิติทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบสองทาง และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบมีลำดับ ผลการวิจัยพบว่า

1) ไม่พบความแตกต่างกันของพฤติกรรมจัดการความเครียดทั้งด้านรวมและด้านย่อยทั้ง 2 ด้าน ได้แก่แบบมุ่งแก้ไขปัญหาและแบบมุ่ง

แก้ไขอารมณ์ใน ผู้ให้บริการที่มีลักษณะชีวสังคมแตกต่างกัน 2)ไม่พบปฏิสัมพันธ์ระหว่างปรีชาเชิงอารมณ์แนวพุทธและสัมพันธภาพ

ในหน่วยงาน ที่มีต่อพฤติกรรมจัดการความเครียดทั้งด้านรวมและด้านย่อย 3) พบปฏิสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความสามารถของตน

ในการจัดการความเครียดและการรับรู้ความคาดหวังขององค์กรที่มีต่อพฤติกรรมจัดการความเครียดทั้งด้านรวมและด้านย่อย

4) พบปฏิสัมพันธ์ระหว่างความหยุ่นตัวและการสนับสนุนทางสังคม ที่มีต่อพฤติกรรมจัดการความเครียดทั้งด้านรวมและด้านย่อย

5) ตัวทำนายร่วม 7 ตัวแปร สามารถทำนายพฤติกรรมจัดการความเครียดทั้งด้านรวมและด้านย่อยแบบมุ่งแก้ไขปัญหาและแบบมุ่งแก้ไข

อารมณ์ 60.70%, 50.10% และ 51.50% ตามลำดับในกลุ่มรวม โดยตัวทำนายสำคัญ คือปรีชาเชิงอารมณ์แนวพุทธ และ ความหยุ่นตัว

ด้วยค่าอิทธิพลเท่ากับ .54 และ .35 ตามลำดับ

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2015-01-22

ฉบับ

บท

บทความวิจัย